ความคิดสร้างสรรค์ เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้คนและองค์กรสามารถดำเนินงานขับเคลื่อนภารกิจสู่เป้าหมายที่กำหนดไว้ สามารถสร้างสรรค์งานให้มีความก้าวหน้า ตอบสนองความต้องการของตนและองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความคิดสร้างสรรค์จึงเป็นแหล่งเกิดนวัตกรรมและเทคโนโลยีในทุกองค์กร
ความคิดสร้างสรรค์ไม่ได้เป็นเรื่องของความสามารถเฉพาะบุคคล เป็นเรื่องของคนฉลาดเท่านั้น ความคิดสร้างสรรค์ไม่ได้ขึ้นอยู่กับอายุ หรือไม่มีใครสามารถจัดการความคิดสร้างสรรค์ได้ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นความเชื่อที่ต้องปรับเปลี่ยน เมื่อความจริงของความคิดสร้างสรรค์สามารถเกิดขึ้นได้จาก 3 องค์ประกอบ คือ
- ความเชี่ยวชาญ (expertise) คือ ความรู้ด้านเทคนิค กระบวนการ และความฉลาด
- ทักษะในการคิดอย่างสร้างสรรค์ (Creative-thinking skill) เป็นความสามารถในการแสวงหาวิธีแก้ปัญหา มีจินตนาการ มีความมุ่งมั่นในการทำงานให้บรรลุตามเป้าหมาย ที่กำหนดไว้ถึงแม้จะมีอุปสรรค
- แรงจูงใจ(motivation) คือ สิ่งที่มากระตุ้นเพื่อให้เกิดการกระทำ ซึ่งมีทั้งแรงจูงใจภายนอก เช่น ค่าตอบแทน การเลื่อนตำแหน่ง และแรงจูงใจภายในซึ่งเป็นความปรารถนาหรือความสนใจที่กระทำให้สำเร็จ
ทั้ง 3 องค์ประกอบ จะช่วยผู้บริหารทำงานสำเร็จตามเป้าหมายได้ถ้าหากสามารถบริหารจัดการให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ในองค์กร โดยการวางคนให้เหมาะสมกับงาน (put the right man on the right job) มอบความไว้วางใจโดยให้อิสระในการดำเนินงาน การสนับสนุนเวลาและทรัพยากรให้เพียงพอต่อการปฏิบัติงาน กระตุ้นให้เกิดทีมงานเพื่อการสร้างสรรค์ซึ่งผู้บริหารเองก็ต้องเปิดใจยอมรับ(Open mind) ว่าความสร้างสรรค์อาจเกิดจากคนเพียงคนเดียว แต่การทำงานอย่างสร้างสรรค์ไม่สามารถสำเร็จได้โดยคนๆเดียวได้ ผลงานที่สร้างสรรค์ย่อมเกิดจากการทำงานร่วมกันเป็นทีมของผู้เชี่ยวชาญแต่ละสาขามารวมกัน ซึ่งย่อมมีสิ่งที่เกิดขึ้นในทีมงานที่ผู้บริหารต้องยอมรับ คือ
- การยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่าง ระหว่างความคิดใหม่ กับ ความมีประสบการณ์
- การให้อิสระและความมีวินัย
- ความสนุกสนาน และความเป็นมืออาชีพ
- การปรับตัวตามสถานการณ์ และการวาแผน
ผู้บริหารต้องสร้างความสมดุลของสิ่งเหล่านี้ให้เกิดขึ้นด้วยการสร้างบรรยากาศที่กระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ได้ ด้วยวิธีการ ดังนี้
- สร้างบรรยากาศที่ทำให้คนเต็มใจที่จะถกเถียงเรื่องที่ทำให้รู้สึกลำบากใจ
- อำนวยความสะดวกในการปรึกษาหารือกัน สร้างบรรทัดฐานของกลุ่ม กระตุ้นให้คนร่วมกันระบุปัญหาที่ชัดแจ้ง ใช้การปรึกษาหารือที่ไม่เป็นทางการ
- พยายามหาข้อสรุปให้ได้ด้วยการปรึกษาหารือ
นอกจากนี้ ผู้บริหารควรเพิ่มพลังในการสร้างสรรค์ ใน 6 ขั้นตอน ดังนี้
- พยายามสร้างความสอดคล้องกันระหว่างเป้าหมายขององค์กรและค่านิยมที่ตนเองยึดถือ
- ทำกิจกรรมที่ริเริ่มด้วยตนเองซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดจากแรงจูงใจภายใน เป็นลำดับแรก
- ใช้ประโยชน์จากิจกรรมที่ไม่เป็นทางการ สำหรับการทบทวนความคิดและปรับปรุงงาน
- เปิดรับโอกาสที่เข้ามาใหม่ ๆ ทดลองความคิดใหม่ ๆ
- พัฒนาทักษะการทำงานหลาย ๆ ด้านเพื่อได้เรียนรู้สิ่งที่แตกต่าง
- สร้างโอกาสในการสื่อสารจากปฏิสัมพันธ์ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ความคิดกับเพื่อนร่วมงาน
ความคิดสร้างสรรค์ จึงเป็นทักษะที่สามารถสร้างให้เกิดขึ้นได้ด้วยการฝึกฝน เป็นทักษะที่สำคัญสำหรับคนและองค์กรในศตวรรษที่ 21 ที่ต้องแสวงหาความรู้ เทคนิค วิธีการในการพัฒนางาน โดยมีผู้สนับสนุนให้เกิดขึ้นในตัวบุคคลและในองค์กร ท่ามกลางกระแสของการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว เพื่อให้คนและองค์กรมีความสามารถในการสร้างสรรค์ผลงานชิ้นใหม่ที่แตกต่าง เกิดประโยชน์และสร้างความรับผิดชอบ การมีส่วนร่วมต่อการพัฒนาสังคม
แหล่งที่มา
แคทซ์, ราล์ฟ. (2554) การบริหารจัดการนวัตกรรม. กรุงเทพฯ เอ็กซเปร์เน็ท.